วัฒนธรรมบนผืนผ้าอันสวยสดงดงามของไทย มีมากมายหลายหลาก แตกต่างกันออกไป แต่อีกหนึ่งลวดลายที่โดดเด่น คือ ผ้าลายตาราง ที่ใครๆ มักเรียกขานกันว่า “ผ้าขาวม้า” ผ้าทอลายตาราง ผ้าทอลายนี้จัดเป็นสัญลักษณ์สัมพันธ์ทางวัฒนธรรมที่อยู่เคียงคู่มากับคนไทยกว่าเก้าร้อยปี คนไทยจำนวนมากมีความใกล้ชิดกับผ้าชนิดนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต ผ้าขาวม้าในอดีตเป็นผ้าที่ควรคู่กับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เหตุผลประการแรกเพราะ งานหลักของผ้าขาวม้าคือ ผ้าที่ใช้ขจัดสิ่งปฏิกูล เหงื่อไคลออกจากร่างกาย ผู้ชายมักใช้พาดบ่า เคียนเอว พกพาเวลาเดินทางไกล ไม่ใช่ผ้าที่ใช้เสริมความงาม ประดับตกแต่งเรือนร่าง ประการที่สอง ผ้าขาวม้าเป็นผ้าที่ใช้ในพื้นที่ส่วนตัว และมักใช้กับส่วนล่างของร่างกาย แม้นจะไม่มีข้อห้ามในการนำเอามาใช้กับส่วนบนของร่างกายก็ตาม ผ้าขาวม้าจึงเปรียบได้กับของใช้ธรรมดาชิ้นหนึ่ง ประการที่สาม ผ้าขาวม้าส่วนใหญ่ใช้เพื่อนุ่งห่มหรือปกปิดร่างกายของคนในแถบชนบทเสียเป็นส่วนใหญ่ คนเมืองจึงมองว่าเป็นเรื่องตลก และเชย บัณฑิต ปิยะศิลป์. http://www.thaingo.org/cgi-bin/content/content2/show.pl?0325.
จากการนำผ้าขาวม้าไปใช้ได้สารพัดประโยชน์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จึงทำให้เกิดการพัฒนารูปแบบการใช้ไม่ว่าจะเป็นนุ่งเล่น อาบน้ำ เคียนเอว นำมาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้า รองเท้า ทำชุดผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าห่ม ใช้เช็ดตัว คาดศรีษะ ผูกเป็นเปลนอนให้กับเด็กๆ ใช้เป็นผ้ากันแดด ตกแต่งเวทีสวยงาม เป็นของที่ระลึก และเป็นของฝาก อื่นๆ อีกมากมาย ส่งผลต่อความคิดที่ว่าใช้ผ้าขาวม้าแล้วตลก และเชยหายไปจากสังคมไทยในปัจจุบัน ผู้เขียนรู้สึกหลงใหลในมนต์เสน่ห์แห่งผืนผ้าลวดลายตารางที่ว่านี้ จึงอยากนำเสนอเรื่องราววิวัฒนาการของผ้าขาวม้า พื้นที่ทอผ้าขาวม้าในแต่ละภูมิภาค รายละเอียดดังกล่าวจะสะท้อนให้เห็นภาพผ้าขาวม้าลายตารางสารพัดประโยชน์ ที่พัฒนามาเป็นผ้าขาวม้าสารพัดนึกภายใต้ความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย
คำสำคัญ : วัฒนธรรม สร้างสรรค์ ผ้าขาวม้า สารพัดนึก